TEETH - STRAIGHTENING TREATMENT
SERVICES
RESOURCES
MEDICAL CERTIFICATIONS
Certifications ensuring safety, quality, and compliance with global standards.
ฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เป็นพื้นฐานหนึ่งของการมีรอยยิ้มที่สวยสดใส ทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้หลายเท่าตัว ฉะนั้นการเลือกประเภทการจัดฟันให้เหมาะสมกับตัวเองจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับใครหลาย ๆ คน เรามาดูกันดีกว่าว่า แล้วการจัดฟันแบบใสกับแบบเหล็ก แบบไหนดีกว่า ? ต่างกันอย่างไร ? และเหมาะกับใครบ้าง ?
ปัจจุบันมีการจัดฟันด้วยรูปแบบที่หลากหลายและใช้เครื่องมือที่ทันสมัย สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในนั้นคือการจัดฟันแบบใสที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และหากไม่สังเกตก็ไม่สามารถมองเห็นอุปกรณ์ในการจัดฟันได้อย่างชัดเจน
และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จึงสามารถวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพฟันและสร้างพิมพ์ฟันได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดฟันใส มีการใช้นวัตกรรมใหม่เข้าร่วมในกระบวนการ เริ่มจากการสแกนช่องปากหรือ Intraoral Scanner ซึ่งเป็นเครื่องสแกน 3 มิติที่สามารถจำลองภาพฟันของคนไข้ขึ้นมา แล้วนำภาพสแกนที่ได้ไปจำลองการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อให้ผู้ชำนาญการวิเคราะห์และออกแบบแผนการรักษา และทำอุปกรณ์จัดฟันใสให้สัมพันธ์กับแผน โดยที่คนไข้จะใส่เครื่องมือจัดฟันใสที่ถูกทำขึ้น เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามแผนการรักษาที่ถูกวางไว้
การจัดฟันเหล็ก ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาโดยมองจากแบบพิมพ์ฟัน และประเมินว่าควรติดเหล็กจัดฟันที่ตำแหน่งใดของฟัน หลังจากนั้นจึงใส่ลวดเพื่อให้ฟันมีการเคลื่อนที่ โดยภาพรวมแล้วการเคลื่อนที่ของฟันจะเป็นแบบ Pulling Force (แรงดึงที่กระทำต่อฟัน) ส่งผลให้ฟันแบะออก หรือผายออก ภายใต้การควบคุมที่เหมาะสมของทันตแพทย์
หากสงสัยว่าจัดฟันแบบใสดีไหม หรือจัดฟันแบบเหล็กจะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า การจัดฟันทั้งสองแบบจะเหมาะกับกลุ่มคนที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
การจัดฟันใส เหมาะกับบุคคลหลายกลุ่ม เช่น ดารา นักแสดง คนที่เป็นนักพูด กลุ่มคนมีอายุและไม่ต้องการมีเหล็กจัดฟันที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน รวมถึงกลุ่มคนที่ทำงานโดยต้องใช้การพูดเป็นหลัก
การจัดฟันเหล็ก เหมาะกับบุคคลที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความสวยงาม ไม่กังวลเรื่องการทำความสะอาดฟันที่อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น หรือพูดง่าย ๆ คือเหมาะกับบุคคลที่มีไลฟ์สไตล์แบบสบาย ๆ
สำหรับใครที่กำลังลังเลและไม่แน่ใจว่าเทคนิคการจัดฟันแบบใสหรือแบบเหล็กจะดีกว่ากัน ลองมาดูข้อดีและข้อเสียกันเลย
รูปแบบการจัดฟัน | ข้อดี | ข้อเสีย |
แบบใส |
|
|
แบบเหล็ก |
|
|
การจัดฟันแบบใสมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังต้องอยู่ภายใต้ทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
การจัดฟันแบบใส ไม่จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์บ่อยทุกเดือน เนื่องจากสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ในการจัดฟันได้เองตามแผนการรักษา
การจัดฟันใส แบ่งได้เป็น 2 กรณี
การจัดฟันใสที่ไม่มีการถอนฟัน สำหรับคนไข้ที่มีฟันซ้อน เกเล็กน้อย เคยจัดฟันมาแล้ว หรือไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำการถอนฟันร่วมด้วย โดยส่วนมากจะใช้เวลาในการจัดฟันไม่เกิน 1 ปี
การจัดฟันใสที่มีการถอนฟัน ในกรณีที่ฟันของคนไข้มีการซ้อนเกมาก รูปปากยื่น และต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย อาจจะใช้เวลาถึง 2 ปีในการจัดฟัน
การจัดฟันเหล็ก โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนไข้ในการมาพบทันตแพทย์ตามเวลานัดหมายด้วย
สำหรับคนที่ลังเลว่าจะจัดฟันใสดีไหม หรือควรจัดฟันเหล็กดี เพราะไม่แน่ใจว่าแบบไหนดีกว่ากัน ในความเป็นจริงแล้วผลลัพธ์ของการจัดฟันทั้ง 2 แบบขึ้นอยู่กับการวางแผนการรักษา และการวินิจฉัยเคสโดยทันตแพทย์ แต่การจัดฟันใสอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาฟันซ้อนเกมาก เนื่องจากดูแลทำความสะอาดง่าย และสามารถออกงานสังคมได้อย่างสะดวก สำหรับคนไข้ที่ดูแลทำความสะอาดฟันได้ไม่ดี หลังจากการจัดฟันเหล็กแล้วอาจจะมีปัญหาฟันผุ หรือโรคเหงือกตามมาได้
ก่อนที่จะตัดสินใจจัดฟันแบบใส ควรพิจารณาและควรรู้เรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การจัดฟันใส ที่สำคัญคือต้องมีวินัยในการใส่ อย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน ควรถอดแค่เวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน
การจัดฟันเหล็ก ควรมาพบทันตแพทย์ตามเวลาที่นัดหมาย ระวังเครื่องมือหลุดและควรปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เช่น การเกี่ยว Elastic (การเกี่ยวยาง)
สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดฟันแบบใสจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งปัญหาการเรียงตัวของฟัน ยี่ห้อของอุปกรณ์ โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดฟันใสแบบ Clear Aligner จะอยู่ที่ 29,950 บาท
การจัดฟันแบบใสถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ อีกทั้งการใช้ชีวิตก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถรับประทานอาหารได้ง่าย ๆ เพียงแค่ถอดอุปกรณ์จัดฟันใสก่อนรับประทาน นอกจากนี้ การจัดฟันใสยังเจ็บน้อยถึงน้อยมาก เพราะเราใช้วิธีกรอฟัน IPR ช่วยเพิ่มระยะห่างของฟันให้สามารถเคลื่อนที่เข้าหากันได้โดยไม่ต้องถอนฟัน ไม่ต้องพักฟื้นและไม่มีอาการบาดเจ็บที่มากอีกด้วย
Dr Clear Aligners อุปกรณ์จัดฟันใส ใช้วัสดุคุณภาพพรีเมียม ในรูปแบบ Zendura FLX ที่โปร่งใส ยืดหยุ่น และมีน้ำหนักเบาเป็นอย่างมาก สามารถเคลื่อนฟันของผู้ที่จัดฟันใสให้เข้าที่ เรียงตัวสวย ได้ตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์ได้วางเอาไว้ โดยผ่านเทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงได้รับการดูแลโดยทันตแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการจัดฟันใสโดยเฉพาะ
สนใจ ปรึกษาจัดฟันใสฟรี หรือ แอดไลน์ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ Line: @drclearaligner
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่